หลังจากงานเปิดตัว Apple Watch Series 3 ที่ผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่แอปเปิลประกาศบน Keynote นั่นก็คือฟีเจอร์เกี่ยวกับ Heart Rate ใหม่นอกเหนือจากที่ระบุใน watchOS 4 Beta ตอนงาน WWDC 17 เพราะฉะนั้นวันนี้แอดจะมาสรุปฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับ Heart Rate บน watchOS 4 ว่ามีอะไรใหม่บ้าง รุ่นไหนใช้ได้ไม่ได้ ?
1) Current Heart Rate
จะแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Real-time และจะมีกราฟแสดง Heart rate แบบใหม่ที่จะโชว์อัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน ซึ่งจะแสดงในแอป Heart rate บน Apple Watch และแอป Health บนไอโฟน
2) Resting Rate
ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะที่เราไม่ได้มีกิจกรรมอะไร กำลังผ่อนคลายเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งมันสามารถดูแนวโน้วความเครียดในระหว่างวันได้ แต่ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะ Apple Watch Series 1 และใหม่กว่าเท่านั้น ส่วน Apple Watch รุ่นแรกหมดสิทธิ์
3) Walking Average
ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยขณะที่เราเดินในความเร็วปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะแสดงกราฟในระหว่างวันแสดงในแอป Health บนไอโฟน และในแอป Heart rate บน Apple Watch เช่นกัน
4) Workout
กราฟแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบนี้จะแสดงขึ้นเมื่อเราทำการออกกำลังกาย ซึ่งจะแสดงเป็นกราฟสีเขียว โดยจะมีค่าอัตราการเต้นเฉลี่ยและค่าสูงสุดแสดงขึ้นมา
5) Recovery time
คือเวลาที่ใช้ในการทำให้อัตราการเต้นของหัวใจกลับมาอยู่ในระดับปกติหลังจากที่เราออกกำลังกาย ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูได้ที่แอป Heart rate บน Apple Watch หลังเราออกกำลังกายเสร็จ โดยจะอยู่ในหัวข้อ Workout ให้เลื่อนลงมาข้างล่าง จะมีคำว่า Recovery ซึ่งจะมีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ลดลงหลัง 1 และ 2 นาทีนั่นเอง
ภาพจาก iDownloadBlog
6) Breathe
สำหรับฟีเจอร์ Breathe นั้นถือว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาตั้งแต่ watchOS 3 คือเป็นฟีเจอร์ที่จะให้ผู้ใช้สูดหายใจเข้าออกเพื่อผ่อนคลายในระหว่างวัน ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจขณะใช้แอป Breathe จะไปแสดงบนแอป Heart rate บน Apple Watch ด้วย
7) Elevated Heart Rate
ฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีเลยทีเดียว ซึ่งอธิบายง่าย ๆ มันคือ Apple Watch สามารถตรวจจับและแจ้งเตือนเราได้เมื่อหัวใจของเราเต้นเร็วกว่าปกติ ถึงแม้เราจะไม่ได้ขยับตัว นั่งอยู่เฉย ๆ
ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้โดยเข้าไปที่แอป Watch บนไอโฟน >> Notification >> Heart Rate >> Elevated Heart Rate จากนั้นให้เลือกอัตราการเต้นของหัวใจที่ต้องการ เช่น ถ้าเราเลือก 120 BPM ตัว Apple Watch ก็จะคอยตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจของเรา ถ้าเกิน 120 BPM ติดต่อกัน 10 นาทีในขณะที่เราอยู่เฉย ๆ Apple Watch จะมี Notification เด้งเตือนขึ้นมาทันที
8) Heart Rate Variability
Heart Rate Variability (HRV) คือ ความผันแปรของระยะเวลาของการเต้นของหัวใจในแต่ละครั้ง ยิ่งค่า HRV ยิ่งสูง แสดงว่าระบบประสาทอัตโนมัติชนิด Parasympathetic ทำงานได้ดี และได้สมดุลกับ Sympathethic นั่นหมายความว่าเรามีความฟิตที่มากขึ้นนั่นเอง
ภาพจาก Reddit
9) VO₂ Max
และสุดท้าย Apple Watch สามารถคำนวณค่า VO₂ Max หลังออกกำลังกายได้ ซึ่ง VO₂ Max คือ การใช้ปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ร่างกายของเราต้องใช้ในการออกกำลังกาย โดยค่า VO₂ Max ยิ่งสูงยิ่งดี นั่นหมายถึงระบบการเผาผลาญของเราดีด้วยเช่นกัน โดย Apple Watch จะทำการคำนวณได้ก็ต้องเมื่อเราทำตามเงื่อนไขดังนี้
- ออกกำลังกายโดยใช้แอป Workout บน Apple Watch
- จะต้องเลือกประเภทออกกำลังกายเป็น Outdoor Walk หรือ Outdoor Run เท่านั้น
- ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 20 นาที
- และจะต้องเปิดการทำงานของเซ็นเซอร์ Heart Rate ด้วย
และนี่คือฟีเจอร์เกี่ยวกับ Heart Rate ทั้งหมดบน watchOS 4 ที่แอปเปิลพึ่งเปิดตัวไป สุดท้ายการมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมายก็ไม่ได้หมายความว่าสุขภาพของเราจะดีขึ้น แต่เราจะต้องออกกำลังกายด้วยตัวเองด้วย มิฉะนั้นแล้วอุปกรณ์อะไรก็ช่วยไม่ได้
ขอบคุณ MacThai