โดย Kuo เชื่อว่าแอปเปิลจะเป็นผู้นำในด้านการนำเทคโนโลยี AR มาใช้อย่างจริง ๆ ซึ่งจะทำให้ตลาดในด้านนี้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งแอปเปิลจะผลักดันในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และจะมีผู้พัฒนามาร่วมพัฒนาในสินค้าใหม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับสินค้าใหม่นี้ น่าจะออกมาอยู่ในกลุ่มอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ใช้ iPhone เพราะอาจจะต้องใช้ไอโฟนในการช่วยประมวลผล, เชื่อมต่อ และการใช้งานในบางฟังก์ชัน คล้าย ๆ กับ Apple Watch

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือเกี่ยวกับแว่น AR ของแอปเปิลหลุดออกมาเช่นกัน ซึ่งสเปกอาจจะมาพร้อมหน้าจอความละเอียด 8K, รองรับ 802.11ay, มาพร้อมระบบปฏิบัติการ rOS และใช้โค้ดเนมว่า T288

ที่มา – MacRumors

ภาพเรนเดอร์ iPhone X 2019 นั้นด้านหน้าจะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน ก็คือขอบด้านบน ในส่วนของที่เว้าแหว่งนั้นจะมีขนาดเล็กลง ในขณะที่ขอบจอยังบางเหมือนเดิม ส่วนด้านหลังจะมี กล้องสามเลนส์แต่จัดเรียงเป็นแนวนอน ต่างกับที่เรนเดอร์มาให้ชมก่อนหน้านี้

แหล่งข่าวที่เสาะหาภาพหลุดนี้ ก็ยืนยันว่า ภาพเรนเดอร์ทั้งสองแบบนั้น เป็นของจริง แต่เป็นเครื่องต้นแบบ ของ iPhone 2019 ที่ตอนนี้ยังอยู่ในระยะ EVT Stage ปีนี้คาดว่า แอปเปิลจะยังคงเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งหมด สามรุ่น แบ่งเป็น ไอโฟนหน้าจอ OLED 2 รุ่น และ ไอโฟน ​​LCD แบบเดียวกับที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว

แอปเปิลได้ร่อนอีเมลเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน Apple Event – It’s Show Time ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ สถานทีจัดงานก็คือSteve Jobs Theatre ที่ตั้งอยู่ในสำนักงานใหญ่ Apple Park โดยอีเมลที่ส่งเชิญสื่อมวลชน คราวนี้เป็นภาพเคลื่อนไหว ที่มีการนับถอยหลัง ก่อนจะจบที่โลโก้ Apple พร้อมคำโปรย “It’s Show Time” ซึ่งสื่อถึงภาพยนตร์ และทีวี อย่างชัดเจน

จากรายงานข่าวก่อนหน้านี้ นั้น คาดกันว่

า แอปเปิลจะเปิดบริการออนไลน์ใหม่ ๆ ทั้งบริการอ่านและนิตยสารแบบสมาชิก รวมไปถึงบริการสตรีมมิ่งวิดีโอ โดยบริการวิดีโอจะเริ่มช่วงฤดูร้อน หรือช่วงฤดูใบไม้ร่วงในสหรัฐอเมริกา (หลังกลางปี) ซึ่งแอปเปิลก็มีแผนเปิดให้มีบริการสมาชิกจาก ผู้บริการคอนเทนต์วิดีโออื่นๆ เพิ่มเติมด้วย

ส่วนของสินค้าใหม่ ที่คาดจะเปิดตัวพร้อมกันหรือหลังงานนี้ไม่นาน ก็คือ iPad 9.7 นิ้วรุ่นใหม่, iPad mini 5, AirPower, AirPods 2 แอปเปิลจะเปิดให้ผู้สนใจทั่วไป ได้รับชมงานพร้อมกันทั่วโลกอีกด้วย ผ่านทาง Apple.com/apple-events

ขอบคุณ iphoneapptube

โฆษณาความยาว 54 วินาทีนี้เล่าเรื่องราวความเป็นส่วนตัวของผู้คนในชีวิตประจำวันว่าผู้คนต่างก็ต้องการความเป็นส่วนตัวกันทั้งนั้น และ iPhone ของ Apple ก็สามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้

<iframe width=”560″ height=”315″ src=”https://www.youtube.com/embed/A_6uV9A12ok” frameborder=”0″ allow=”accelerometer; autoplay; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture” allowfullscreen></iframe>

ความเป็นส่วนตัว

Apple ได้เปิดหน้าเว็บ https://www.apple.com/th/privacy/ เพื่ออธิบายว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของผลิตภัณฑ์ในยุคนี้ที่ต้องมี

ปีนี้เป็นที่ 30 แล้วสำหรับงานใหญ่กลางปี ด้านซอฟต์แวร์ Worldwide Developers Conference 2019 (WWDC19) ที่เป็นการรวมเหล่านักพัฒนาระบบ iOS, macOS, watchOS หรือ tvOS ในงานแอปเปิลก็เปิดตัว iOS 13, tvOS 13, macOS 10.15 และ watchOS 6 สำหรับบัตรเชิญในงาน เป็นรูปเหมือนไฟนีออน ที่เป็นหุ่ยนต์ พร้อมคำโปรย Write code. Blow minds พร้อมโลโก้ของการพัฒนาระบบทั้ง Swift, Metal และอื่นๆ สถานที่จัดงานคือ McEnery Convention Center งานจัดขึ้นวันที่ 3 ถึง 7 มิถุนายนนี้

“WWDC คืองานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Apple นักพัฒนาที่มีความคิดสร้างสรรค์และมุ่งมั่นในการทำงานที่สุดหลายพันคนและวิศวกรของ Apple กว่าพันคนจะมารวมตัวกันเพื่อพบปะพูดคุยและเรียนรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์มด้านนวัตกรรมชิ้นล่าสุด” Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Apple กล่าว “นักพัฒนาของเรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับคนทั้งโลกผ่านแอพ เราอดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนนักพัฒนาเพื่อต่อยอดไอเดีย”

นักพัฒนาสามารถสมัครขอรับบัตรเข้างานได้ที่ เว็บไซต์ของ WWDC ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 20 มีนาคม เวลา 7.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ระบบจะสุ่มเลือกออกบัตรให้กับผู้เข้างาน พร้อมแจ้งสถานะการสมัครขอรับบัตรเข้างานให้นักพัฒนาได้ทราบภายในวันที่ 21 มีนาคม เวลา 7.00 น. ของวันถัดไปตามเวลาในประเทศไทย นักพัฒนาและผู้ที่ชื่นชอบ Apple จากทั่วโลกสามารถชมถ่ายทอดสดการประชุมผ่านทางแอพ WWDC app บน iPhone, iPad และ Apple TV และบนเว็บไซต์ของ Apple Developer

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน แอปเปิลเพิ่งประกาศการจัดงาน Apple Event ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ คาดว่าจะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งวิดีโอ และ iPad รุ่นใหม่

ขอบคุณ .iphoneapptube

แอป Gmail ปรับโฉมใหม่เป็น Material Design เตรียมปล่อยใช้งานบน iOS และ Android แล้ว

การปรับโฉม Gmail ใหม่ครั้งนี้เป็นแนว Material Design เน้นเป็นโทนสีขาวที่ดูสะอาดตา สวยงามแบบเรียบง่าย และดูเป็นระเบียบ และโทนสีขาวยังช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นสีสันของป้ายกำกับได้ง่ายอีกด้วย

เริ่มต้นด้วยส่วนการค้นหาด้านบนสุดที่ดูเด่นชัด มีเมนูสามขีดอยู่ทางด้านซ้าย สำหรับการเข้าถึงเมนูที่เกี่ยวข้อกับการกรองอีเมล และด้านขวาจะเป็นเมนูโปรโฟล์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแตะเพื่อเปลี่ยนบัญชี Gmail อื่นได้อย่างรวดเร็ว

ด้านล่างขวายังมีไอคอนบวก (+) สำหรับสร้างอีเมลฉบับใหม่ และเมื่อแตะเข้าไปดูรายละเอียดอีเมลก็จะมีส่วนการแจ้งเตือนสีแดงที่ระบุว่าอีเมลฉบับนี้มีความเสี่ยงต่อหรือเป็นอันตรายต่อข้อมูลส่วนตัว พร้อมกับแสดงเมนูแนะนำให้ลบทันที

นอกจากนี้ รายการอีเมลยังแสดงให้ทราบว่าอีเมลมีการแนบไฟล์หรือรูปภาพมาด้วย ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นและรับทราบได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเปิดเข้าไปดูข้างใน ส่วนไอคอนภายในแอปก็ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ให้ดูเรีย

บง่ายและสวยงามมากขึ้น

Gmail โฉมใหม่นี้จะเปิดใช้งานบนสมาร์ตโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ คาดว่า Material Design ใหม่จะถูกใจหลายๆ คนอย่างแน่นอน รอติดตามการอัปเดตอีกครั้งนะคะ

ขอบคุณ iMod 9to5google 

ผู้ใช้ Mac สามารถเข้าไปดาวน์โหลดชุดแอป Microsoft Office ที่ออกแบบมาสำหรับ Mac โดยเฉพาะได้เลยที่ Mac App Store โดยแอป Office ประกอบไปด้วย

• Microsoft Word
• Microsoft Excel
• Microsoft PowerPoint
• Microsoft Outlook

ในการใช้งานนั้นผู้ใช้ Mac ต้องสมัคร Office 365 ก่อน โดยราคา Office 365 แบบ Home เริ่มต้นที่ 289.99 บาทต่อเดือนหรือ 2,899.00 บาทต่อปี (ข้อมูลเพิ่มเติม)

จดหมายข่าวจาก Apple

วันนี้มีการเปิดให้ดาวน์โหลด Office 365 จาก Mac App Store ได้เป็นครั้งแรก ช่วยให้ผู้ใช้ Mac สามารถดาวน์โหลด Word, Outlook, Excel, PowerPoint และ OneNote รวมถึงแอพยอดนิยมต่างๆ ของ Microsoft ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถสมัครสมาชิก Office 365 จากในแอพ แล้วเริ่มใช้งานได้ทันที

Office 365 สำหรับ Mac ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับคุณสมบัติต่างๆ ที่มีเฉพาะบน Mac เท่านั้น เช่น โหมดมืดและ “ความต่อเนื่องของกล้อง” ใน macOS รวมถึง Touch Bar ของ MacBook Pro และแทร็คแพดชั้นแนวหน้าของ Mac

“เรารู้สึกตื่นเต้น ที่ได้ต้อนรับ  Microsoft Office 365 เข้ามาอยู่ใน Mac App Store โฉมใหม่ใน macOS Mojave” Phil Schiller รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดทั่วโลก ของ Apple กล่าว “Apple และ Microsoft ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อให้ผู้ใช้ Mac ได้ใช้แอพด้านการทำงานที่ยอดเยี่ยมในแบบฉบับ Office และวันนี้เมื่อ Office 365 มาอยู่บน Mac App Store แล้ว ผู้ใช้ก็สามารถดาวน์โหลด Office 365 สำหรับ Mac, iPad และ iPhone เวอร์ชั่นล่าสุดที่ดีที่สุดได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย”

“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศว่าวันนี้ Office 365 กำลังจะเข้ามาอยู่ใน Mac App Store แล้ว” Jared Spataro รองประธานบริษัท Microsoft กล่าว “เราทำงานร่วมกับ Apple อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผู้ใช้ Mac ได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้แอพด้านการทำงานที่ดีที่สุด ซึ่งมาพร้อมทุกอย่างที่ผู้ใช้ชื่นชอบและคุ้นเคยเกี่ยวกับ Office ผ่านประสบการณ์การใช้งานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Mac”

พนักงานอยากมีอุปกรณ์และแอพที่ดีที่สุดไว้ใช้ทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงานหรือที่บ้าน และเมื่อ Office 365 มาอยู่บน Mac App Store แล้ว องค์กรก็สามารถแจกจ่ายแอพเหล่านี้ให้พนักงานได้ง่ายๆ โดยใช้ AApple Business Manager ซึ่งเป็นแดชบอร์ดส่วนกลางที่ IT สามารถใช้จัดการอุปกรณ์ แอพ และ สิทธิ์การใช้งาน วันนี้ IT สามารถเปิดให้พนักงานทำงานด้วยเครื่องมือ Office ที่ชื่นชอบทั้งบน Mac, iPad และ iPhone ได้อย่างรวดเร็วด้วยคุณสมบัติใหม่อันยอดเยี่ยมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ Apple

เกี่ยวกับ Mac App Store

Mac App Store เป็นแหล่งรวบรวมแอพ Mac ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Mac App Store ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่เมื่อปีที่ผ่านมาก็มาพร้อมลุคใหม่และคอนเทนต์แนะนำดีๆ ที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่เพลิดเพลินยิ่งขึ้นขณะค้นหาแอพใหม่ที่น่าสนใจสำหรับ Mac Mac App Store มีความคล้ายคลึงกับ iOS App Store ตรงที่มีการให้ความสำคัญกับแอพ เกม ธุรกิจ และนักพัฒนาด้วยแถบ “ค้นพบ” แบบใหม่หมดที่จะนำเสนอเรื่องราวน่าสนใจ บทสัมภาษณ์เชิงลึก เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ คอลเลกชั่นแอพที่ต้องมี และอีกมากมาย นอกจากนี้ ผู้ใช้จะได้พบกับแถบ “สร้างสรรค์”, “ทำงาน”, “เล่น” และ “พัฒนา” แบบใหม่ที่จะช่วยให้ค้นหาแอพที่เหมาะกับโปรเจ็กต์หรือวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแอพสำหรับเพลง วิดีโอ การถ่ายภาพ ไปจนถึงแอพสำหรับใช้งานทางธุรกิจและเกมต่างๆ

ที่มา –iMoD iclarified, Apple Newsroom

ปุ่มลัดสำหรับระบบ

1. Option + Command + ปุ่ม Power : เข้าสู่โหมดพักเครื่อง
2. Control + Shift + ปุ่ม Power : เข้าสู่โหมดพักหน้าจอ (Sleep)
3. Shift + Command + Q : ลงชื่อออก (Logout) จากบัญชี
4. Control + Command + ปุ่ม Power : บังคับรีสตาร์ท โดยไม่บันทึกไฟล์ที่เปิดอยู่
5. Control + Option + Command + ปุ่ม Power : ออกจากแอปทั้งหมดและปิดเครื่อง แต่จะมีหน้าต่างสอบถามการบันทึกไฟล์ที่เปิดอยู่และไม่ได้บันทึก
6. Control + ปุ่ม Power : เรียกหน้าต่างเพื่อแสดงตัวเลือกรีสตาร์ท, พักเครื่อง หรือปิดเครื่อง

ปุ่มลัดสำหรับการแสดงผลและ Dock

1. Command + Space bar : แสดงและซ่อน Spotlight Search เพื่อเริ่มการค้นหาที่รวดเร็ว
2. Option + Command + D : แสดงและซ่อน Dock ด้านล่าง
3. Control + Command + Space bar : แสดงตัวแสดงอักขระ เช่น อิโมจิ สัญลักษณ์อื่นๆ
4. Control + Command + F : แสดงแอปที่เปิดอยู่แบบเต็มหน้าจอ
5. Command + Shift + 3 : ถ่ายภาพหน้าจอแบบเต็ม
6. Command + Shift + 4 : ถ่ายภาพหน้าจอเฉพาะส่วนที่เลือก
7. Command + Shift + 5 : เปิดเมนูควบคุมการถ่ายภาพหน้าจอ

ปุ่มลัดสำหรับ Finder

1. Shift + Command + C : เปิดหน้าต่างคอมพิวเตอร์
2. Shift + Command + D : เปิดโฟลเดอร์ Desktop
3. Shift + Command + F : เปิดโฟลเดอร์ล่าสุด
4. Option + Command + L : เปิดโฟลเดอร์ดาวน์โหลด (Download)
5. Shift + Command + O : เปิดโฟลเดอร์เอกสาร
6. Shift + Command + U : เปิดโฟเดอร์ Utilities
7. Shift + Command + R : เปิดหน้าต่าง AirDrop
8. Shift + Command + G : เปิดหน้าต่างไปยังโฟลเดอร์
9. Shift + Command + I : เปิดโฟลเดอร์ iCloud Drive
10. Command + 1 :  ดูรายการในหน้าต่าง Finder เป็นไอคอน
11. Command + 2 : ดูรายการในหน้าต่าง Finder เป็นรายการ
12. Command + 3 : ดูรายการในหน้าต่าง Finder ในคอลัมน์
13. Shift + Command + N : สร้างโฟลเดอร์ใหม่
14. Option + Command + N : สร้างสมาร์ทโฟเดอร์ใหม่
15. Option + Command + S : ซ่อนหรือแสดงแถบด้านข้างในหน้าต่าง Finder
16. Option + Command + P : ซ่อนหรือแสดงแถบ Path ในหน้าต่าง Finder
17. Command + เครื่องหมาย / : ซ่อนหรือแสดงแถบสถานะในหน้าต่าง Finder

ปุ่มลัดสำหรับเอกสาร

เมื่อใช้งานแอปพลิเคชันเกี่ยวกับเอกสาร สามารถใช้ปุ่มลัดได้ดังนี้

1. Command + B : ปรับข้อความที่เลือกให้เป็นตัวหนา หรือเปิดปิดฟังก์ชันตัวหนา
2. Command + I : ปรับข้อความที่เลือกให้เป็นตัวเอง หรือเปิดปิดฟังก์ชันตัวเอียง
3. Command + U : ขีดเส้นใต้ข้อความที่เลือก หรือเปิปิดฟังก์ชันขีดเส้นใต้
4. Fn + ลูกศรขึ้น : เลื่อนขึ้นไป 1 หน้า
5. Fn + ลูกศรลง : เลื่อนลงไป 1 หน้า
6. Fn + ลูกศรซ้าย : เลื่อนไปที่ส่วนเริ่มต้นเอกสาร
7. Fn + ลูกศรขวา : เลื่อนไปที่ส่วนท้ายเอกสาร
8. Command + S : บันทึกเอกสารปัจจุบัน
9. Command + P : พิมพ์เอกสารปัจจุบัน
10. Command + Z : ยกเลิกคำสั่งก่อนหน้า (Undo)
11. Shift + Command + Z : กลับมาทำคำสั่งก่อนหน้าใหม่ (Redo)

ปุ่ดลัดทัวไป

1. Command + X : ตัดรายการที่เลือกพร้อมคัดลอกไปยังคลิปบอร์ด
2. Command + C : คัดลอกรายการที่เลือก
3. Command + V : วางรายการที่คัดลอกหรือตัด
4. Command + A : เลือกรายการทั้งหมด
5. Command + F : ค้นหารายการในหน้าต่างที่เปิดไว้
6. Command + M : ย่อหน้าต่างด้านหน้าไปยัง Dock
7. Command + W : ปิดหน้าต่างด้านหน้า
8. Option + Command + Esc : บังคับปิดแอป
9. Command + Tab : สลับแอปที่กำลังเปิดอยู่

และนี่ก็เป็นคีย์ลัดหรือปุ่มลัดสำหรับ Mac ที่คาดว่าผู้ใช้ทั่วไปคงได้ใช้งานกันบ่อยและทำให้การทำงานบนอุปกรณ์ Mac นั้นทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งยังมีคีย์ลัดอื่นๆ อีกมากมายให้เรียนรู้ สามารถดูคีย์ลัดแนะนำโดย Apple เพิ่มเติมได้ที่ ปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดของ Mac

ขอบคุณ idownloadblog

สิ่งใหม่ใน iOS 12.1.3

• แก้ปัญหาที่อาจทำให้เลื่อนดูรูปภาพไม่ได้ในหน้าต่างรายละเอียดในแอพข้อความ
• จัดการปัญหาที่อาจทำให้เกิดเส้นขีดทับบนรูปภาพหลังจากที่ส่งโดยใช้แผ่นแชร์งาน
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้เสียงเพี้ยนเมื่อใช้อุปกรณ์ภายนอกที่รับฟังเสียงซึ่งเชื่อมต่อกับ iPad Pro (ปี 2018)
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้ระบบ CarPlay บางระบบไม่เชื่อมต่อกับ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้ HomePod เริ่มการทำงานเครื่องใหม่
• จัดการปัญหาที่อาจทำให้ Siri หยุดรับฟังเสียงพูด

(หากทีมงานพบสิ่งใหม่ จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง)

อัปเดตเป็น iOS 12.1.3

ผู้ใช้ทั่วไปสามารถอัปเดตเป็น iOS 12.1.3 ได้ผ่าน OTA ที่ Settings > About > Software Update หรือจะดาวน์โหลด Firmware และติดตั้ง iOS 12.1.3 ผ่าน iTunes บนคอมพิวเตอร์ก็ทำได้เช่นกัน

iOS 12.1.3 IPSW ดาวน์โหลดติดตั้งผ่านคอมฯ : https://www.iphonemod.net/ios-12-1-3-ipsw-download.html

อุปกรณ์ที่สามารถอัปเดตเป็น iOS 12.1.3

อุปกรณ์ที่สามารถอัปเดตเป็น iOS 12.1.3 ได้มีดังนี้

iPhone

• iPhone XS, iPhone XS Max
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8, iPhone 8 Plus
• iPhone 7, iPhone 7 Plus
• iPhone 6s, iPhone 6s Plus
• iPhone 6, iPhone 6 Plus
• iPhone SE
• iPhone 5s

iPad

• iPad Pro 11 นิ้ว, iPad Pro 12.9 นิ้ว (Gen 3)
• iPad Pro 12.9 นิ้ว (Gen 2)
• iPad Pro 10.5 นิ้ว
• iPad Pro 12.9 นิ้ว (Gen 1)
• iPad Pro 9.7 นิ้ว
• iPad (Gen 5, Gen 6)
• iPad Air 2, iPad Air
• iPad mini 4, iPad mini 3, iPad mini 2

iPod touch

• iPod touch (Gen 6)